วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

เคล็ดลับให้คุณมีรอยยิ้มฟันขาวเพอร์เฟคในวันแต่งงาน

รู้ใจว่าที่เจ้าสาวทุกคน คงไม่มีใครปฏิเสธที่จะอยากมีฟันขาว
เพื่อให้ได้รอยยิ้มที่สวยสมบูรณ์แบบที่สุด
เมื่อต้องใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวสว่างสดใสในวันแต่งงานของเธอ
 เราจะมีข้อเปรียบเทียบทันทีระหว่างสีฟันกับสีชุด
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นใดเลย คือ ความขาวของฟันของว่าที่เจ้าสาว
คนที่เด่นที่สุดในงานจะเป็นใครอื่นไม่ได้ นอกจาก เจ้าสาว จะต้องสวยทุกมุม ทุกช๊อต
เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะทั้งวัน แถมยังต้องยิ้มสวยโชว์ฟันขาวให้ทุกสายตาของแขกที่มาในงาน

มีหลายวิธีที่จะให้มีฟันขาววิ๊งทันวันสำคัญมาฝาก
อันดับแรก
ถ้าไม่มีเวลาแล้ว ด่วนมากๆ ก็ทาสีฟันให้ขาวซะเลยสิ มีน้ำยาเคลือบฟัน มีลักษณะคล้ายยาทาเล็บเปลี่ยนฟันสีเหลืองเป็นฟันสีขาวได้ใช้เวลาไม่กี่นาที แต่ต้องคอยเติมนะสารชนิดนี้ไม่ค่อยติดทนทาน มันจะอยู่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็ต้องคอยทาตลอด เหมาะสำหรับคนที่ต้องมาเป็นเจ้าสาวเร่งด่วน

อันดับสอง
สำหรับคนที่อยากมีฟันขาวเร็วๆและไม่เกี่ยงหากต้องไปหาหมอฟันที่สำคัญเรื่องค่าใช้จ่ายทุ่มเทได้
 ขอแนะนำให้ใช้การฟอกสีฟันที่คลีนิคทำฟันเป็นการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ราคาค่อนข้างแพง
ควรนัดแพทย์ก่อนวันแต่งงานสัก 3วันก่อนถึงวันแต่งงาน
เนื่องจากว่า การฟอกสีฟันจะขาวสว่างสดใสเมื่อทำเสร็จใหม่ๆ
พอเรามีพฤติกรรมการกินเหมือนเดิม เช่น ว่าที่เจ้าสาวชอบดื่มกาแฟมาก
 แค่เพียง 2สัปดาห์สีฟันก็จะเริ่มมีคราบเหลือง เนื่องจากเดิมกาแฟ ชา ไวน์แดง หรือสูบบุหรี่
แล้วก็ต้องรีบไปหาหมอฟันเพื่อฟอกสีฟันอีกที่อยู่ดี

อันดับสาม
ฟอกฟันขาวด้วยตัวเองที่บ้าน
ด้วยชุดฟอกสีฟันพร้อมใช้ ที่มีเจลฟอกสีฟัน แม่พิมพ์ฟัน และเครื่องฉายแสง ครบเลย
หากเลือกวิธีนี้ ว่าที่เจ้าสาวควรวางแผนการฟอกสีฟัน ไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 2สัปดาห์ เพราะเป็นวิธีที่ต้องให้เวลาหลายวันแต่มีข้อดีตรงที่ราคาไม่แพง และความขาวที่ได้จะขาวได้นานที่สุด แต่ว่าที่เจ้าสาวต้องขยันสักหน่อย วิธีนี้ต้องการความสม่ำเสมอ แต่ฟันขาวชัวร์
อวดฟันขาวของว่าที่เจ้าสาวแสนสวยได้อย่างมั่นใจสุดๆ
 
อันดับที่สี่
สำหรับคนที่มีแม่พิมพ์ฟันเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
ซื้อแค่เจลฟอกฟันขาวชนิด คาร์บามาย เปอร์ออกไซด์ ประมาณ 10-35% มาใช้ก็ได้นะ
รับรองว่าคุณได้เป็นเจ้าสาวที่รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัด สวยแล้วยังฉลาดด้วย 
วิธีนี้ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เหมือนกับวิธีที่สามนะ วางแผนการฟอกสีฟันไว้ให้ดี
 
เมื่อคุณวางแผนที่จะมีฟันขาวอย่างดีแล้ว
ก็เตรียมที่จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดและมีความสุขกว่าใครได้เลย
 
ถึงเวลาที่คุณจะแบ่งปันความงดงามของช่วงเวลาแห่งความสุขนี้
ให้แก่ผู้คนที่อยู่รอบข้าง ด้วยรอยยิ้มสดใสที่เต็มไปด้วยความสุขของเจ้าสาวในแบบของคุณ
Will you marry me ?
 
 

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

สารเคลือบฟันป้องกันโรคฟันผุคืออะไร จำเป็นมากไหม

วิทยาการทางอุตสาหกรรมทันตกรรมที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ช่วยให้เราสามารถป้องกันโรคฟันผุด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งในหลายประเทศสามารถควบคุมโรคฟันผุให้ ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


วิธีป้องกันโรคฟันผุที่ได้ยินได้ฟังกันเสมอ คือ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลลัพท์ที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังมีวิธีป้องกันโรคฟันผุอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในที่นี้จะได้กล่าวถึง สารเคลือบฟันป้องกันโรคฟันผุ
ทันตแพทย์อาจแนะนำให้เคลือบร่องฟันกับฟันที่เพิ่งจะงอกขึ้นมาใหม่ๆ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะที่ทำการเคลือบร่องฟันอยู่นั้น เด็กๆจะให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่ร้องไห้หรือเจ็บปวดแต่อย่างใดเลย นอกจากนี้เมื่อทำเสร็จแล้ว ท่านอาจไม่สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงบนตัวฟันเลย จนบางท่านอาจสงสัยว่าทันตแพทย์ทำอะไรให้หรือเปล่า

เรามารู้จัก สารเคลือบร่องฟันป้องกันฟันผุดีไหม?

ฟันของเด็กที่เพิ่งงอกขึ้นมาโดยเฉพาะฟันกรามซี่แรก ซึ่งมักจะโผล่ขึ้นมาในช่องปากเมื่ออายุประมาณ 6-7 ขวบ และขึ้นต่อจากฟันน้ำนมที่มีอยู่แล้ว ในขณะที่ฟันกรามน้ำนมยังคงอยู่ จึงทำให้ผู้ปกครองบางท่านเข้าใจว่าเป็นฟันน้ำนม และขาดการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ฟันกรามถาวรซี่แรกนี้จึงมีโอกาสผุได้ง่ายเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณด้านบดเคี้ยว ซึ่งฟันกรามถาวรจะมีร่องและหลุมลึก เป็นที่กักของเชื้อจุลินทรีย์และเศษอาหารให้มันเจริญเติบโต แล้วปล่อยกรดมาทำลายฟันได้ง่าย นอกจากนี้ในบริเวณร่องและหลุมฟันดังกล่าว ยังทำความสะอาดไปไม่ได้ทั่วถึง และฟลูออไรด์ ก็เข้าไปป้องกันฟันผุไม่ถึงด้วย เป็นผลให้ด้านบดเคี้ยวของฟันกรามถาวรซี่แรกนี้ มีอัตราการเกิดโรคฟันผุสูงกว่าเพื่อน หลักการง่ายๆในการป้องกันฟันผุในด้านบดเคี้ยวดังกล่าว ก็คือการทำให้ร่องและหลุมฟันเหล่านี้ตื้นขึ้นมา ไม่เป็นที่สะสมของคราบจุลินทรีย์ ทำความสะอาดได้ทั่วถึง นักวิจัยทางทันตแพทยศาสตร์จึงคิดค้น สารเคลือบร่องฟันป้องกันฟันผุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโพลีเมอร์พิเศษ ที่มีคุณสมบัติเหลวและไหลเข้าร่องลึกได้ดี และจะแข็งตัวเมื่อได้รับปฏิกิริยาทางเคมีหรือได้รับแสงที่เหมาะสม แต่มีปัญหาว่าสารโพลีเมอร์นี้จะยึดติดกับชั้นเคลือบฟันได้อย่างไร จึงจะไม่หลุดออกไปเมื่อถูกแรงกระแทกจากการกินอาหารหรือการแปรงฟัน และยังต้องการให้คงสภาพอยู่บนตัวฟันได้นานเป็นปีๆ เพื่อป้องกันโรคฟันผุให้ได้ผล

ผลจากการศึกษาวิจัยเป็นเวลาหลายปี ปัจจุบัน วงการทันตแพทย์ก็ได้วิธีการที่ครอบคลุมตามความต้องการดังกล่าวได้อย่างดี โดยขั้นแรกต้องขัดและทำความสะอาดฟันที่จะเคลือบฟันให้ดี ต่อมาใช้กรดที่มีความเข้มข้นพอเหมาะกัดชั้นเคลือบฟันด้านนอกสุด ให้มีรูพรุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะทำหน้าที่ยึดจับสารเคลือบร่องฟันอย่างหนาแน่น และเมื่อใช้สารเคลือบร่องฟันแล้ว จะต้องไม่หนาตัวจนไปรบกวนการบดเคี้ยวตามปกติ ดังนั้นจึงดูเสมือนหนึ่งฟันปกติทุกประการเพียงแต่ร่องและหลุมฟันถูกถมให้ ตื้นขึ้นมา ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะไม่มีผลเสียต่อฟันหรือสภาวะในช่องปากแต่อย่างใด และอาจใช้กับฟันกรามซี่ใดก็ได้ที่มีร่องและหลุมลึก

วิธีป้องกันโรคฟันผุ โดยใช้สารเคลือบร่องฟันนี้จะไปเสริมการป้องกันโรคฟันผุด้วย ฟลูออไรด์ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ แต่สารเคลือบร่องฟันยังมีข้อด้อยที่ไม่สามารถใช้กันอย่างกว้างขวางเช่นเดียว กับฟลูออไรด์ได้ เนื่องจากเวลาเคลือบต้องทำกับเด็กทีละคนและต้องให้ทันตแพทย์เป็นผู้เคลือบ ให้ เป็นการเสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เป็นที่น่ายินดีว่า เนื่องจากประสิทธิภาพของสารเคลือบร่องฟันป้องกันฟันผุเป็นที่น่าพอใจมาก จึงได้มีความพยายามที่จะให้เด็กได้รับการป้องกันนี้มากขึ้น โดยได้มีการศึกษาที่จะให้ทันตบุคลากรอื่นๆ เช่น ทันตาภิบาลเป็นผู้เคลือบร่องฟันให้ ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดีเช่นเดียวกัน และกำลังจะขยายการป้องกัน โดยจะได้ทดลองให้ครูในโรงเรียนเป็นผู้เคลือบให้โดยหวังผลให้เด็กนักเรียนทุก คน ได้รับการป้องกันโรคฟันผุด้วยสารเคลือบร่องฟันนี้อย่างเหมาะสม


Desensitizing gel หรือ Reminerizing gel
สารเคลือบฟลูออไรด์ ช่วยลดอาการเสียวฟัน ป้องกันฟันผุ
แนะนำให้ใช้หลังการฟอกสีฟัน
 อย่างไรก็ดี แม้จะใช้ สารเคลือบร่องฟันป้องกันฟันผุ และ ฟลูออไรด์เพิ่มความแข็งแกร่งต่อฟันก็ตาม ยังจะต้องไม่ลืมวิธีป้องกันโรคฟันในชีวิตประจำวันของเรา คือ การลดอาหารหวาน โดยเฉพาะลดความถี่บ่อยของการกินขนมหวาน และการทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี


วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

เราเคยสังเกตรอยยิ้มที่เรามีในทุกวันกันบ้างไหม


ตามหลักการทาง จิตแพทย์ ได้แบ่งการยิ้มได้เป็น 3 แบบใหญ่ๆ คือ
 แบบที่1  ยิ้มเสแสร้ง

รอยยิ้มที่สร้างขึ้น โดยเจตนาจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดทำให้ผู้อื่นคิดว่า เรารู้สึกว่าอย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ ยิ้มเสแสร้ง คือ การเจตนาที่จะพยายามกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกในด้านดี ยิ้มเสแสร้งจะปรากฏบนใบหน้านานกว่ายิ้มจริงใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคจิตหลายคนเห็นว่า การหัวเราะเป็นตัวการที่จะปลดปล่อยความตึงเครียด หรือความตื่นเต้นที่มีมากจนเกินไป การหัวเราะช่วยปรับความสมดุล ให้อยู่ในสภาวะปกติ แม้ว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ตลกเลยก็ตาม เหตุผลที่เราชอบหัวเราะอีกอย่างหนึ่งก็เพราะ เวลาหัวเราะเราต้องยิ้มก่อนและใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ย่อมน่าดูกว่าใบหน้าบึ้งตึงดุร้าย การหัวเราะจึงเป็นอีกขั้นหนึ่ง ของการยิ้มนั่นเอง คุณสามารถยิ้มไปโดยไม่ต้องหัวเราะ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะหัวเราะโดยไม่ยิ้ม คนที่สามารถยิ้มและหัวเราะอย่างจริงใจก็เหมือนกับกำลังพูดว่า "ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรนะ ฉันเป็นมิตรนะ ฉันอยู่ข้างเธอนะ" คนที่สามารถยิ้มและหัวเราะในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายจริงๆ นั้นก็คือ คนที่เป็นอัจฉริยะโดยแท้ เพราะเท่ากับเขากำลังพูดว่า "ฉันไม่กลัวหรอก"

แบบที่2  ยิ้มเศร้า

มนุษย์เราเป็นทุกข์เพราะเราทำตัวเองเป็นทุกข์ และเรายังทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์อีกด้วย คนที่หัวเราะมากๆ จะมีชีวิตยืนนาน คนที่มีความสุขจะมีอายุยืนกว่าคนที่อมทุกข์ การที่จะให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ จำเป็นจะต้องมีการแบ่งปัน คนที่รู้จักหัวเราะ ก็คือ คนที่รู้จักแบ่งปันนั่นเอง

แบบที่3  ยิ้มจริงใจ

ยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่ดีงาม ยิ้มจริงใจเป็นการแสดงความรู้สึกทางด้านบวกอย่างแท้จริงจะปรากฎขึ้น หลังจากได้รับรู้สภาวะของอารมณ์ซึ่งรวมทั้งความยินดีจากสิ่งกระตุ้น ทางตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส อย่างรักใคร่ก็สามารถเรียกรอยยิ้ม อย่างจริงใจออกมาได้ รอยยิ้มอย่างจริงใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อหายจากเจ็บปวดจากแรงกดดันที่อึดอัดได้เหมือนกัน ยิ้มอย่างจริงใจนี้ นอกจากจะใช้กล้ามเนื้อยิ้มตามปกติคือ กล้ามเนื้อขากรรไกรแล้ว ยังใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอีกด้วย ผลของการยิ้มจริงใจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน "ความสุข" (เอนเดอร์ฟิน) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปออกฤทธิ์ทำให้ม่านตาขยายตัว และตามีประกายของความสุขที่เราเรียกว่า "ตายิ้ม" ซึ่งตานี้เองจะแสดงออกถึงความรัก ความเป็นมิตรและความอบอุ่น  คนที่ตกหลุมรักกัน หลายคนชื่นชมประทับใจกันรอยยิ้มแรกพบ โดยเฉพาะรอยยิ้มที่จริงใจเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เป็นรอยยิ้มมีเสน่ห์น่าหลงใหล ผู้พบเห็นก็มักจะยิ้มตอบ มีความสุข

ชีวิตเป็นของคุณ คุณเลือกรอยยิ้มที่มีในทุกๆวันได้ คิดดูนะค่ะ ว่าเราน่าจะมีรอยยิ้มแบบไหนเยอะๆ ผู้เขียนขอเลือกที่จะมีรอยยิ้มแบบจริงใจค่ะ ยิ้มแล้วเห็นฟันทุกซี่เลย เมื่อเรายิ้มเราอาจไม่มั่นใจสักเท่าไร เพราะอาจคิดว่าฟันเราขาวดีหรือยัง ใครๆก็อยากมี ฟันขาวเพื่อเรียกความมั่นใจเมื่อยิ้มหรือต้องพูดคุย กรือเจรจาธุรกิจ  เราจะรู้สึกมั่นใจเพิ่มขึ้นเมื่อเรารู้ว่าฟันของเราเป็นฟันที่ขาวสว่างสดใส การจะมีฟันขาวปิ๊งได้นั้นต้องเริ่มจากการดูและเรื่องการทานอาหาร  ต้องรักษาความสะอาดขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอ
หรือใครที่ต้องการให้ฟันขาวทันออกงาน เราอาจต้องใช้บริการคลีนิคทำฟัน หรืออาจจะเลือกที่จะซื้อชุดฟอกสีฟันมาทำเองที่บ้านจะช่วยประหยัดได้มาก